ความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นระหว่างมีประจำเดือน
และเทคนิคการปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น
อารมณ์ที่ไม่ดี แก้ได้ด้วยการ ยิ้มนิดๆ เพื่อให้ใจสงบ
การตั้งใจลืมตากว้างๆ และยิ้มเล็กน้อยทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความสุข และอารมณ์สงบ ก่อนมีประจำเดือนและระหว่างมีประจำเดือน อาจมีอาหารปวดศรีษะบ้าง ปวดเอวบ้าง นอกจากนี้ ถ้างานยุ่งหรือมีปัญหาด้านความรักด้วย ยิ่งทำให้ร้อนใจมากขึ้น ปกติแล้วเวลาเพื่อนร่วมงานล้อเล่นกับเรา
เราจะหัวเราะและปล่อยผ่านไป แต่ถ้าเป็นช่วงก่อนมีประจำเดือนหรือช่วงมีประจำเดือน เรากลับรู้สึกหงุดหงิดและแสดงสีหน้าไม่ดีออกไป
เมื่อมองย้อนกลับไปก็มีหลายครั้งที่รู้สึกว่า ตัวเองทำรุนแรงเกินไป
โดยเฉพาะช่วงก่อนมีประจำเดือนและระหว่างมีประจำเดือน อารมณ์จะไม่ค่อยดีและอยู่ในช่วงที่เครียด อยากทำสิ่งต่างๆให้เสร็จโดยเร็ว ทำให้ไวต่อการกระทำของอีกฝ่ายและแสดงท่าทีที่ไม่ดีออกไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาดังกล่าวให้ลองลืมตากว้างๆ และยิ้มดูเล็กน้อย จะรู้สึกว่า อารมณ์เย็นขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
ไม่ได้ร้องไห้เพราะว่าเสียใจ แต่เสียใจที่ร้องไห้ออกมา?
ทฤษฎีของเจมส์ - แลงค์ (James - Lange Theory) มีแนวคิดว่า อารมณ์เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เมื่อร้องไห้ก็จะยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้น
เมื่อจิกตามองก็จะยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เมื่อพูดจาด้วยคำพูดที่รุนแรงก็จะยิ่งโกรธ เวลารู้สึกหงุดหงิดกับคนอื่นก็มักจะขมวดคิ้ว ดังนั้น ให้พยายามรู้ตัว ลืมตาให้กว้าง และยิ้มเล็กน้อย
ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ความรู้สึกหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นได้
ผลของการแสดงออกทางสีหน้า (Face Feedback)
เมื่อเรายิ้ม Serotonin ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขก็จะถูกผลิตออกมาทำให้มีความสุขง่ายขึ้น
ผลการทดลองจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาที่แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้คาบดินสอในแนวนอนและทำหน้ายิ้ม
กลุ่มที่สองให้คาบหลอดในแนวตั้งและทำหน้าเคร่งขรึม หลังจากนั้นให้ทั้งสองกลุ่มอ่านการ์ตูน
กลุ่มแรกที่ทำหน้ายิ้มจะตอบว่าการ์ตูนสนุกมากกว่ากลุ่มที่สอง เราเรียกผลการทดลองดังกล่าวว่า
ผลของ Face Feedback เมื่อทำหน้าตาคล้ายๆ กับเวลาเรายิ้ม Dopamine ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท
เกี่ยวกับความสุข จะหลั่งออกมาทำให้รู้สึกสนุกขึ้น ดั้งนั้นเวลาเรายิ้ม Serotonin ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ก็จะถูกผลิตออกมาทำให้มีความสุขนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันถ้าเราหัวเราะ
ตลอดเวลา ก็อาจถูกมองว่าเป็นคนแปลกได้ จึงควรแสดงออกให้เหมาะสมกับกาลเทศะ
เคล็ดลับที่มีผลต่อจิตใจ “สีหน้าเป็นภาษาที่เข้าใจได้ทั่วโลก”
ทีมซึ่งมีนาย Ekman นักจิตวิทยาชาวอเมริกาเป็นหัวหน้า ได้เดินทางไปที่ประเทศที่ไม่ค่อยมีการติดต่อกับประเทศแถบตะวันตก และนำรูปแสดงสีหน้าพื้นฐานของคน เช่น โกรธ กลัว ดีใจ
ไปให้ดูและพบว่า ผู้ที่ดูรูปแสดงสีหน้ารับรู้ได้ถึงอารมณ์ของรูปตรงกัน ดังนั้น ทำให้เราทราบว่าสีหน้าเป็นวิธีการแสดงออกที่สามารถเข้าได้ทั่วโลก เด็กทารกซึ่งเพิ่งเกิดมาเพียงไม่กี่นาที
ก็จะดูหน้าคนโดยสัญชาตญาณและพยายามเลียนแบบสีหน้าของอีกฝ่าย เพียงแค่ยิ้มก็เป็นการสื่อสารได้ว่า ที่นี่ปลอดภัยและทำให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกวางใจได้