ตั้งแต่มีประจำเดือนครั้งแรก สาวๆคงคุ้นเคยกันดีกับผ้าอนามัยแบบที่ใช้กันทุกวันนี้ อย่างโซฟี ที่มีทั้งแบบแผ่นหนา แผ่นบาง มีปีก หลังๆก็มีลายดอกไม้น่ารักๆ มาเพิ่มความรู้สึกน่ารักน่าใช้ขึ้น แต่รู้มั้ยว่า ก่อนจะมาเป็นผ้าอนามัยที่เราใช้กัน ยุคคุณป้า คุณย่า คุณยาย ผ้าอนามัยไม่ได้น่าใช้ แสนสะดวกสบายมีแนวนูน และขอบปกป้อง เหมือนทุกวันนี้
สาหร่าย = ผ้าอนามัย เป็นไปได้หรือนี่ ?
ถ้าเรานั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลาไปไกลตั้งแต่สมัยยุคหิน สาหร่ายทะเล ขนแกะ ขนกระต่าย และ หญ้ามอส นี่ละ คือผ้าอนามัยยุคเริ่มต้นของสาวๆยุคโบราณเค้าละ หลังจากที่มนุษย์เริ่มมีวิวัฒนาการด้านสิ่งทอ สาวๆในยุคนั้นก็เริ่มใช้ผ้ามาซับประจำเดือนแทน โดยมีการระบุถึงผ้าซับระดูนี้ตั้งแต่สมัยกรีกโบราณเลยทีเดียว :O
มาแว้ว..ผ้าอนามัยชิ้นแรกของโลก
จากผ้าซ้อนกันหลายๆทบ กลายมาเป็นฟางข้าวหรือใยนุ่นที่พันด้วยผ้าอีกชั้น แต่ก็ยังไม่สามารถซึมซับได้ดี สาวๆก็ยังแสวงหาสิ่งซึมซับประจำเดือนที่ดีขึ้น จนถึงปี 1888 ก็มีนางพยาบาลคนหนึ่งคิดค้นผ้าอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง ที่ได้ไอเดียจากผ้ากอซห้ามเลือด ซึ่งในสมัยนั้นทำจากเยื่อไม้ที่ซึมซับได้ดี เรียกว่า Southball Pad แต่ก็นับได้ว่ามีราคาแพงสำหรับคนทั่วไป จึงใช้แพร่หลายเฉพาะในกลุ่มชนชั้นสูงเท่านั้น
ผ้าอนามัยแบบห่วง ผ้าอนามัยในความทรงจำของคุณแม่
ในช่วงปี 1900 ผ้าอนามัยได้พัฒนาให้มีห่วงคล้องเอว และมีตะขอเกี่ยวสองด้านกับตัวผ้าอนามัย แต่มีข้อเสียและสร้างความไม่สะดวกกับสาวๆหลายอย่าง เช่นไม่สามารถใส่กับชุดรัดรูปได้
จึงมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องให้ตรงกับความต้องการของสาวๆ จึงมีการปรับให้เป็นแบบผ้า ที่ถอดซักได้ แต่ผ้าอนามัยแบบห่วงนี้ปัจจุบันยังมีใช้อยู่สำหรับคุณแม่แรกคลอดนะ!
ผ้าอนามัยแบบแถบกาวในฝันของสาวๆทุกคน
จนในที่สุดผ้าอนามัยก็พัฒนามาเป็นผ้าอนามัยแบบแถบกาวที่เราใช้อยู่ตอนนี้ในปี 1980 \^0^/ โดยช่วงแรกจะเป็นแถบหนาๆใหญ่ๆอยู่ หลังจากนั้นมีการพัฒนา Polymer Gel ซึ่งเป็นสารดูดซับความเปียกชื้นไม่ให้ไหลย้อนกลับ จึงทำให้ผ้าอนามัยแถบกาวที่เราใช้กันอยู่ มีขนาดบางขึ้นและซึมซับได้มากขึ้น อย่างโซฟี มูฟ ซูเปอร์สลิม 0.1 ที่บางเฉียบ แต่ซึมซับมั่นใจ เคลื่อนไหวไม่ห่อตัวเท่านั้น
ย้อนอดีตผ้าอนามัยของไทย สมัยคุณยายคุณย่า
ส่วนผ้าอนามัยของหญิงไทยตั้งแต่สมัยคุณยายคุณย่าจะใช้ผ้าทบกันหลายๆชั้น หรือใช้วัสดุอื่น เช่นกาบมะพร้าวมาดึงใยนุ่มๆออกมาแช่น้ำให้นุ่มขึ้นแล้วใส่ในผ้า หรืออาจจะเป็น ใยนุ่น แกลบ กระดาษฟางและขี้เถ้าผสมแกลบ มาใส่ด้านในเพื่อให้ซึมซับได้มากขึ้น เอามาผูกไว้หว่างขาเหมือนขี่ม้าแล้วใช้เชือกฟาง หรือเชือกกล้วยผูกไว้กับเอวให้แน่นแล้วนุ่งโจงกระเบนทับอีกชั้น คนโบราณจึงเรียก ผ้าเหล่านี้ว่า “ผ้าขี่ม้า” และเรียกช่วงเป็นประจำเดือนนี้ว่า “ถึงผ้า”
ส่วนผ้าอนามัยนั้น มีหลักฐานเก่าแก่สุดที่พบ เป็นโฆษณาขายผ้าซับระตูในหนังสือ "ข่ายเพ็ชร์" ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2468 หรือตั้งแต่สมัยต้นรัชกาลที่ 7 เลย จึงคาดว่าผ้าอนามัย น่าจะเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 หรือกว่า 100 ปีมาแล้ว
กลับมาสู่ปัจจุบัน มั่นใจทุกวันกับโซฟี
โอ้โฮ พออ่านความลำบากของสาวๆในอดีตที่ต้องใส่ผ้าอนามัยแบบหนีบๆ หนักๆ จะเดินไปไหนก็ลำบากแล้ว ก็แอบนับถือคนที่ช่วยคิดค้นนวัตกรรมดีๆที่ทำให้สาวๆอย่างเราแสนสะดวกสบายกับผ้าอนามัย ที่มีทั้งแถวกาวติดสะดวก มีปีกช่วยปกป้อง ไม่ห่อตัว ไม่ซึมเปื้อน แถมมีปีกผีเสื้อโค้งกระชับรับสรีระ อย่างโซฟี ขึ้นมาทันทีเลยแฮะ ไม่งั้นละก็จะออกไปเที่ยวสนุกที่ไหนก็คงอด นั่งสงบเสงี่ยมอยู่กับบ้านทุกวันมามากเป็นแน่แท้ แต่ตอนนี้ไม่ว่าวันไหนๆ เราก็สนุกเต็มที่อย่างมั่นใจ เพราะมีโซฟีที่ทำให้ทุกวันเป็นวันดีๆของเรานี่ไง เย้..