ภาวะเลือดออกผิดปกติ สัญญาณผิดปกติที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้
ภาวะเลือดออกผิดปกติขณะตั้งครรภ์ อันตรายไหม
โดยปกติเมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์ก็จะไม่มีประจำเดือน แต่อย่างไรก็ตามในช่วงแรกของการตั้งครรภ์อาจเกิดภาวะเลือดออกผิดปกติ ส่วนใหญ่เป็นภาวะที่ไม่น่ากังวล ซึ่งทารกสามารถเจริญเติบโตได้อย่างปกติ แต่บางครั้งก็เป็นสัญญานเตือนถึงความผิดปกติได้
ภาวะนี้บ่งบอกถึงอะไร
เลือดออกขณะตั้งครรภ์ เกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
• การตั้งครรภ์นอกมดลูก
การตั้งครรภ์นอกมดลูกหมายถึง การตั้งครรภ์ที่ส่วนอื่นนอกเหนือจากมดลูก โดยปกติเมื่อไข่และอสุจิปฏิสนธิ และแบ่งเซลล์แล้วจะเคลื่อนตัวเข้าไปในมดลูกที่มีเยื่อบุโพรงมดลูกรองรับการตั้งครรภ์ เมื่อไข่ที่ปฏิสนธิแล้วเดินทางมาถึงก็จะฝังตัวลงไปที่บริเวณเยื่อบุข้างในมดลูก และพัฒนาเรื่อยๆจนกลายเป็นทารก อย่างไรก็ตาม หากเกิดการฝังตัวที่อื่นนอกเหนือจากมดลูก จะเรียกว่า การตั้งครรภ์นอกมดลูก โดยส่วนมากจะเกิดที่ท่อนำไข่ อาจเรียกว่า การตั้งครรภ์ที่ท่อรังไข่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการเลือดออกและรู้สึกเจ็บ หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะเกิดการแท้งตามธรรมชาติได้ บางครั้งอาจทำให้ท่อนำไข่แตกและเกิดเลือดออกปริมาณมาก ซึ่งจำเป็นจะต้องเข้ารับการตรวจอย่างเร่งด่วน
• การแท้งในระยะแรกของการตั้งครรภ์
การแท้งในระยะแรกอาจมีภาวะเลือดออกผิดปกติและรู้สึกเจ็บ แต่บางครั้งอาจจะไม่รู้สึกเลยก็ได้ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป 6-7 สัปดาห์ ส่วนใหญ่จะเริ่มรู้สึกเจ็บมากขึ้น บางคนอาจไม่ทราบว่าตนเองตั้งครรภ์และเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงการปวดประจำเดือน ซึ่งเป็นเรื่องเกิดขึ้นได้บ่อยในการตั้งครรภ์ระยะแรกที่มีอายุครรภ์ต่ำกว่า 12 สัปดาห์
ดังนั้นหากเกิดอาการเลือดออกผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ช่วงแรกควรเข้ารับการตรวจ เพื่อตรวจสอบการเต้นของหัวใจของทารก เพราะการแท้งในช่วงแรกของการตั้งครรภ์สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย
สาเหตุอื่นๆที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีภาวะมีเลือดออกผิดปกติ
• เลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation bleeding)
ภาวะเลือดออกผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงแรกของการตั้งครรภ์อาจเกิดจากเลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation bleeding) เป็นการฝังตัวของไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว มี 2 สาเหตุ ได้แก่
- การเกิดแผลที่เส้นเลือดขณะที่ไข่ซึ่งปฏิสนธิแล้วฝังตัวลงในผนังมดลูก โดยจะมีปริมาณของเลือดน้อยกว่าประจำเดือนอย่างชัดเจน เกิดขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากวันตกไข่ ประมาณ 2-3 วัน
- ความผิดปกติของฮอร์โมน HCG หรือ Human Chorionic Gonadotropin ซึ่งจะถูกผลิตออกมาเมื่อตั้งครรภ์ ในกรณีที่ฮอร์โมน HCG มีปริมาณน้อย ร่างกายจะไม่ทราบว่ามีการตั้งครรภ์ เลือดที่ออกมาจะมีปริมาณใกล้เคียงกับประจำเดือน บางครั้งมีระยะเวลาต่อเนื่องกันเกิน 1 สัปดาห์ ทำให้ไม่รู้สึกตัวว่ามีภาวะเลือดออกผิดปกติ ดังนั้นควรรักษาระดับการผลิตฮอร์โมนให้สมดุล หากมีความกังวลควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• การเกิดก้อนเลือด Subchorionic hematoma
ก้อนเลือด Subchorionic hematoma เป็นก้อนเลือดที่เกิดขึ้นขณะที่รกถูกสร้างขึ้นจากการปฏิสนธิ รกทำหน้าที่ส่งอาหารและออกซิเจนจากแม่มายังทารกในครรภ์ ในการสร้างรก Villi หรือเยื่อบุผนังลำไส้เล็ก
ซึ่งจะทะลุผ่านเส้นเลือดเยื่อบุโพรงมดลูกออกมาทำให้เกิดแผลและเลือดออกได้ หากเลือดจับตัวเป็นก้อนจะกลายเป็น ก้อนเลือด ที่เรียกว่า Subchorionic hematoma ซึ่งปริมาณเลือดจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับตำแหน่งของก้อนเลือด หากก้อนเลือดอยู่บริเวณใกล้ปากมดลูกปริมาณเลือดที่ออกมาก็จะค่อนข้างมาก มักจะเกิดขึ้นช่วงแรก ที่รกเริ่มสร้างตัวและจะหายไปเองตามธรรมชาติ
เมื่อเข้าสู่การตั้งครรภ์ระยะกลาง
วิธีรับมือกับภาวะเลือดออกผิดปกติจากการตั้งครรภ์
ในกรณีที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติในช่วงเริ่มแรกของการตั้งครรภ์มีหลายสาเหตุ สิ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดก็คือ การแท้ง
โดยสามารถสังเกตได้จากปริมาณของเลือด หากมีเลือดออกมากหรือเลือดไหลไม่หยุด และรู้สึกปวดท้องร่วมด้วย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที แต่หากมีปริมาณเลือดออกน้อย ก็สามารถ
สังเกตอาการเองก่อนได้
วิธีการรับมือกับการมีเลือดออกผิดปกติ ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์
การมีเลือดออกในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ บางครั้งไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แนะนำให้สังเกตปริมาณของเลือดที่ออกมาและอาการโดยรวม
โดยสังเกตจากปริมาณของประจำเดือนในวันที่ 2 เป็นเกณฑ์ได้ หากปริมาณเลือดออกมามากกว่าปกติหรือเลือดไหลไม่หยุด หรือหากปริมาณเลือดที่ออกมามีไม่มากแต่ยังมีความกังวล แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ