ประจำเดือนมาไม่ปกติ เรื่องใกล้ตัวที่สาวๆควรรู้
ความกังวลจากประจำเดือนมาไม่ปกติของสาวๆ
การที่ประจำเดือนมาไม่ปกติมีหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่เกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุล เรามาเรียนรู้อาการต่างๆ และวิธีการเตรียมพร้อมร่างกายกันเถอะ
ห้ามปล่อยผ่าน หากประจำเดือนมาไม่ปกติ
ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือนมาไม่ปกติ
การที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ ได้แก่
- ระยะเวลาของประจำเดือนยาวเกินไป สั้นเกินไป
- รอบเดือนนานเกินไป สั้นเกินไป
- รอบเดือนไม่สม่ำเสมอ
ปัญหาที่คนส่วนใหญ่พบเจอ เมื่อประจำเดือนมาไม่ปกติ
- โดยปกติแล้ว ประจำเดือนจะมาแค่ 1 ครั้งในระยะเวลา 2 เดือน ก่อนที่จะมีประจำเดือน ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้คุณหมอบอกว่ามีสาเหตุมาจากความเครียด หากต้องการมีบุตร จะต้องแก้ไขเรื่องความเครียด (จากผู้ที่เพิ่งแต่งงานปีแรก อายุ 25 ปี)
- รอบเดือนระยะเวลาแค่ 21 วัน จึงมีความกังวลว่า รอบเดือนสั้นเกินไป (จากคุณ Yukki อายุ 29 ปี)
- ปัจจุบันรอบเดือนยังไม่คงที่ บางครั้งรอบเดือน 28วัน แต่บางครั้งก็นานถึง 48 วัน (จากคุณ Yume อายุ 31 ปี)
- ที่ผ่านมาประจำเดือนมาค่อนข้างช้า และเมื่อประจำเดือนมาก็จะมีระยะเวลาแค่ 2-3 วัน ปริมาณก็น้อย โดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม (จากคุณ Sacchi อายุ 24 ปี)
สาเหตุของการที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ส่วนใหญ่เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง
ประจำเดือนเกิดจากการหลั่งของฮอร์โมนเพศหญิง คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งระบบการหลั่งฮอร์โมนภายในร่างกาย มีความเกี่ยวข้องกับอวัยวะ 3 ส่วน
ได้แก่ Hypothalamus Hypophysis และรังไข่ หากส่วนใดส่วนหนึ่งมีปัญหา ก็จะเกิดผลกระทบต่อการหลั่งของฮอร์โมน
สาเหตุส่วนใหญ่ของความไม่สมดุลของฮอร์โมนเกิดจาก 'ความเครียด'
ความเครียดส่งผลกับประจำเดือนอย่างไร
การที่ประจำเดือนมาไม่ปกติมีสาเหตุมาจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับรังไข่หรือมดลูก หรือในบางกรณีการลดน้ำหนักอย่างหักโหมก็อาจเป็นสาเหตุได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักที่พบได้มากที่สุด คือ ความเครียดซึ่งส่งผลกระทบต่อการหลั่งของฮอร์โมน ทำให้ประจำเดือนหรือรอบเดือนมาไม่ปกติ
หากประจำเดือนมาไม่ปกติ แต่มีไข่ตกทุกเดือนก็ไม่น่าเป็นกังวล
เราไม่จำเป็นต้องกังวลหากรอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ แต่มีไข่ตกทุกเดือน ซึ่งไข่ตกสามารถวัดจากอุณหภูมิของร่างกายที่สูงขึ้น
หากไม่มีไข่ตกจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่ไข่ไม่ตกเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ตั้งครรภ์ยากและเข้าสู่วัยทองหรือประจำเดือนหมดเร็วกว่าปกติได้
ดังนั้นหากกังวลเรื่องรอบเดือนมาไม่ปกติ ควรแก้ไขเรื่องความเครียดเพื่อให้รอบเดือนกลับมาคงที่ หากมีอาการยืดเยื้อ แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือนมาไม่ปกติ มีหลายประเภท
• รอบประจำเดือนมาน้อย (Oligomenorrhea)
รอบเดือนปกติจะมีระยะเวลา 25-38 วัน ซึ่งจะมีความแตกต่างในแต่ละบุคคล หากระยะเวลารอบเดือนนานกว่า 39 วัน จะเรียกว่า ประจำเดือนมาน้อย (Oligomenorrhea) มีสาเหตุมาจากการที่รังไข่ทำงานไม่เพียงพอทำให้ฮอร์โมนไม่สามารถหลั่งออกมาได้ดี
แม้ว่าประจำเดือนจะมาน้อย แต่หากยังมีไข่ตกก็สามารถตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ดีพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นกรณีของรอบเดือน ซึ่งไม่มีไข่ตก หากสังเกตดู 1-2 เดือนแล้วรอบเดือนยังคงนานอยู่
แนะนำให้พบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจเลือดและตรวจสอบความสมดุลของฮอร์โมน
• รอบประจำเดือนมาบ่อย (Polymenorrhea)
การที่รอบเดือนมีระยะเวลาสั้นกว่า 24 วันเรียกว่า ประจำเดือนมาบ่อย (Polymenorrhea) มีสาเหตุมาจากรังไข่ทำงานลดลงหรือเกิดความไม่สมดุลของการหลั่งฮอร์โมนจากความเครียด นอกจากนี้
ยังมีกรณีที่ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนทำงานผิดปกติ ทำให้ระยะเวลาตั้งแต่วันไข่ตกจนถึงวันที่ประจำเดือนมาสั้นลงได้ หากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไม่เพียงพอจะทำให้เยื่อบุภายในมดลูกเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่
ส่งผลให้ตั้งครรภ์ยากหรือเกิดการแท้งได้ง่าย ดังนั้น ผู้ที่ประสงค์จะตั้งครรภ์ควรเข้ารับการตรวจเกี่ยวกับการผลิตฮอร์โมนที่แผนกสูตินารี
• ภาวะประจำเดือนมามากผิดปกติ (Menorrhagia)
การที่ระยะเวลาของการมีประจำเดือนนานเกิน 8 วันขึ้นไป เรียกว่า ประจำเดือนมามากผิดปกติ (Menorrhagia) สาเหตุมาจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนและโรคที่เกี่ยวกับมดลูก
ในกรณีที่ฮอร์โมนไม่สมดุลอาจเกิดจากอวัยวะที่ควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนมีปัญหา หรือการหลั่งของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนผิดปกติ นอกจากนี้เมื่อปริมาณเลือดในประจำเดือนเพิ่มมากขึ้น
และมีลักษณะเป็นลิ่มเลือดหรือมีอาการปวดท้องประจำเดือนมาก ก็ควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากอาจมีสาเหตุมาจากโรคต่าง ๆ เช่น เนื้องอกในมดลูก ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ มดลูกอักเสบ มะเร็งมดลูก หรือมีติ่งเนื้อ (Polyp)
• ภาวะประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ (Hypomenorrhea)
ภาวะที่ปริมาณของเลือดประจำเดือนมีน้อยมากกว่าปกติ (Hypomenorrhea) หรือกรณีที่ประจำเดือนสิ้นสุดภายใน 2 วัน มีสาเหตุมาจากร่างกายมีฮอร์โมนผู้หญิงน้อย
ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางหรือการเจริญเติบโตของมดลูกไม่เป็นปกติ หรือมีการผิดปกติของการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นกรณีที่มีประจำเดือนแต่ไม่มีไข่ตก (Anovulatory cycle)
หากปล่อยไว้นานก็จะเป็นสาเหตุของการเป็นหมันได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• ภาวะประจำเดือนไม่ปกติก่อนที่จะเข้าสู่วัยทอง
รังไข่จะค่อยๆเสื่อมลง เพื่อเข้าสู่ระยะการหมดประจำเดือน (วัยทอง) ตั้งแต่ช่วงอายุประมาณ 35 ปี โดยอาจจะมีความไม่สม่ำเสมอของรอบเดือนหรือปริมาณประจำเดือนลดลง
โดยปกติการหมดประจำเดือนจะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 50 ปีตอนปลาย ดังนั้น หากอาการเข้าสู่วัยทองเกิดขึ้นเร็ว ร่างกายจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นตามไปด้วย ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้การรักษาเพื่อเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงให้เพียงพอ
หากรู้สึกว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ ควรปรึกษาสูตินารีแพทย์
การที่ประจำเดือนมาไม่ปกติมีสาเหตุและอาการแตกต่างกันออกไป หากมีอาการยืดเยื้อ แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาจากสูตินารีแพทย์ หรือสามารถตรวจสอบอาการผิดปกติเบื้องต้นจากการวัดอุณหภูมิร่างกาย
เพื่อเช็คว่ามีไข่ตกหรือไม่ และนำข้อมูลไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับฮอร์โมนของร่างกาย
สิ่งสำคัญ คือ การปรับสมดุลในการใช้ชีวิตประจำวัน
หากประจำเดือนมาไม่ปกติควรปรับการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเอง เช่น รับประทานอาหารวันละ 3 มื้อ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ลดความอ้วนอย่างผิดวิธี
และสิ่งสำคัญที่สุดคือ การรับมือกับความเครียดอย่างถูกต้อง โดยทำให้ร่างกายผ่อนคลาย จากการออกกำลังกาย หรือการใช้ Aromatherapy